เป็นปัญาหาวุ่นวายใจสำหรับตนเองล้วน ๆ เมื่อต้องเตรียมแผนแพลนงบอันน้อยนิด คิดหาทางออก เพื่อบอกตัวเองให้เลือกอุปกรณ์ใหม่สักชิ้น สำหรับคนที่อินกับการอ่าน แต่ยังมีแรงทัดทานเกี่ยวกับการใช้งานด้านอื่นอีกสารพัด
ตัวเลือกอุปกรณ์ในหมวดแทปเล็ตค่าตัวย่อมเยา ขนาดหน้าจอเบา ๆ เทียบเท่าหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กที่หยิบอ่าน ตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนผ่านจากหน้ากระดาษไปสู่หน้าจอ พอได้คุ้นเคยกับอุปกรณ์แทปเล็ตอยู่พอสมควร ยอมรับว่าการมองจอแบบนี้เป็นระยะเวลานาน ดวงตาย่อมพาลอ่อนล้า ช่วงก่อนหน้ามองหาอุปกรณ์ที่มีหน้าจอชนิด E-Ink แต่ยังไม่นิ่งพอที่จะตกลงปลงใจ
เฝ้าติดตามการออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม e-reader ของแบรนด์ BOOX ได้เห็นอุปกรณ์อ่านอีบุ๊กค่ายนี้ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จากจอขาวดำค่อย ๆ ล้ำไปสู่จอสี ล่าสุดมีความละเอียดของจอขาวดำระดับ 300 PPI ทำให้ความละเอียดของตัวอักษรหรือภาพลายเส้น (เช่นภาพวาดการ์ตูนขาวดำ) มีความคมชัด สวยงาม อ่านง่าย คล้ายความคมชัดบนกระดาษที่เกิดจากการพิมพ์
ปัจจุบัน e-reader ของแบรนด์ BOOX ในขนาดหน้าจอ 7.8 นิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับขนาดของหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ก มีรุ่นที่โดดเด่นซึ่งชายตามองอยู่สองรุ่นคือ BOOX NOVA AIR 2 (จอแสดงผลสีขาวดำ) และ BOOX TAB MINI C (จอแสดงผลเป็นสี) สิ่งสำคัญคือทั่งสองรุ่นทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยส์ โอเอส 11 ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปฯ มากมายมาใช้งานได้ในหลากหลายหมวดหมู่ โดยจะพุ่งเป้าไปที่เครื่องจอสี BOOX TAB MINI C เป็นสำคัญ
กลับมาพิจารณา "เป้าหมาย" ของตนเองว่า กำลังต้องการใช้งานเกี่ยวกับอะไรบ้าง?
- อ่านนิยาย อ่านการ์ตูน (มังงะ) ได้อย่างสบายตา
- มีแอปฯ ให้คบหาครอบคลุมความต้องการ
- พกพาง่าย ไร้น้ำหนักเกินขนาด
- เปิดอุปกรณ์ใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่ต้องรำคาญกับแบตเตอรี่เสริม
- ใช้ทำงานซึ่งสามารถอ้างอิงกับงานจริงได้บ้าง
- ราคา (สำคัญยิ่ง) อ้างอิงได้กับงบที่มี (จำกัด)
ข้อมูลจำเพาะของสองอุปกรณ์นี้ จึงถูกรวบรวมมาอยู่ตรงหน้า
ปกติใช้งานอุปกรณ์ iOS มาเป็นเวลานาน ความคุ้นเคยย่อมมีเป็นธรรมดา รวมถึงบรรดาแอปฯ ที่โหลดมาล้วนอยู่ภายใต้องคาพยพ Apple แทบทั้งสิ้น ความคุ้นชินกับ Andriod จึงน้อยนิดเหลือเกิน แม้จะไม่เคยยึดติดชนิดว่าเป็นสาวกค่ายใดค่ายหนึ่งก็ตาม แต่ด้วยงานที่ทำพฤติกรรมที่ใช้ดันไปอยู่ในสาย Apple เสียนมนานต่างหาก ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ศึกษาให้ดีจนถึงปัจจุบันความคล้ายคลึงกันของ "วิธีใช้" ทั้งสองค่ายนี้ไม่ค่อยแตกต่างกันนัก จึงไม่ใช่เรื่องหลักต้องมาทึกทักกังวล เพราะ "เป้าหมาย" ที่กำหนดไว้ต่างหากเป็นหลักสำคัญ
อ่านนิยาย อ่านการ์ตูน (มังงะ) ได้อย่างสบายตา
พิจารณาคุณสมบัติของจอแสดงผลระหว่าง จอของ iPad Mini 6 (2021) กับ BOOX TAB MINI C ล้วนต่างเทคโนโลยีกันโดยสิ้นเชิง
- iPad Mini 6 (2021)
ใช้จอแสดงผล Liquid Retina มีความละเอียด 2266 x 1488 พิกเซล ทำให้ได้ภาพสีสันคมชัดสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ตัวอักษร" และภาพลายเส้น (มังงะ) อีกทั้งมีฟังชั่น "แบ็คไลท์" ให้แสงสว่างจอ จึงทำให้มองหรืออ่านได้ในทุกสภาพแสงภายนอก ขนาดหน้าจอ 8.3 นิ้ว นับว่ามีขนาดใหญ่กว่าอีกสองตัวเลือกเมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน - BOOX TAB MINI C
จอแสดงผลขนาด 7.8 นิ้วแบบ Kaleido 3 ความละเอียดเมื่อแสดงผลขาวดำที่ 1872 x 1404 พิกเซล (300 ppi) ด้วยคุณภาพ ณ ปัจจุบันมีความละเอียดของเม็ดสีเพียง 150 PPI สีสันและมิติภาพอาจจะเทียบไม่ได้กับ iPad Mini 6 แต่การอ่านหนังสือนั้นสบายตา เพราะถูกพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยีจอแสดงผลแบบ E-Ink เพื่อการอ่านโดยเฉพาะ มีฟังชั่น "Front Light" เพิ่มแสงหน้าจอสองรูปแบบคือ แสงโทนอุ่น และแสงโทนเย็น
เปรียบเทียบประเด็นการอ่านนิยายและการ์ตูนแล้ว หากพิจารณาที่ความคมชัด iPad Mini 6 อาจจะเหนือกว่า ถึงอย่างนั้นก็เถอะทั้ง BOOX TAB MINI C สามารถแสดงผลความคมชัดเพื่อการอ่านได้ดีไม่ด้อยไปกว่ากัน หากทำความเข้าใจก่อนว่า ลักษณะของชนิดจอระหว่าง LED กับ E-Ink นั้นเป็นคนละเทคโนโลยีกัน เป็นผลให้การ "อ่าน" ซึ่งปกติมักใช้เวลานานสำหรับนักอ่าน จอแบบ E-Ink มีคุณสมบัติที่เอื้อต่อการอ่านระยะเวลานานได้อย่างเป็นมิตรกับสุขภาพของดวงตามากกว่า
มีแอปฯ ให้คบหาครอบคลุมความต้องการ
อุปกรณ์ที่คัดมาเป็นตัวเลือกทั้งสองรุ่น ล้วนมีระบบปฎิบัติการที่เอื้อต่อการใช้งานกับแอปฯ หลากหลาย ทั้งฝั่ง iOS และ Android เมื่อพิจารณาจากเป้าประสงค์เพื่อการอ่านซึ่งใช้งานอยู่เป็นสำคัญ จึงไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะมีแอปอ่าน ebook สำหรับหนอนหนังสือชาวไทยตัวหลักครบครัน เช่น meb, Google Play Book, ReadAwrite และอื่น ๆ ใน App Store ของทั้งสองแพลตฟอร์ม
ส่วนตัวแล้วแอปฯ ที่ใช้ทำงานส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มของ Goolgle ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Sheet, Doc, Calendar และอื่น ๆ พิจารณาแล้วล้วนมีพร้อมทั้งสองระบบ
พกพาง่าย ไร้น้ำหนักเกินขนาด
แทปเล็ตที่ใช้อยู่เดิมเพื่อเสริมการทำงานกับโน้ตบุ๊กนั้น มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ประมาณ 10 นิ้วขึ้นไป น้ำหนักหากพกพาไปด้วยกัน มันกลายเป็นภาระที่หนักหนาเอาการ แต่อุปกรณ์ทั้งสองที่นำมาพิจารณานี้ ต่างมีข้อดีที่มาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ตรงประเด็น ลองเทียบน้ำหนักและขนาดมิติกันดู
- iPad Mini 6
น้ำหนัก 293 กรัม
ขนาด 195.4 x 134.8 x 6.3 มม. - BOOX TAB MINI C
น้ำหนัก 310 กรัม
ขนาด 194 x 136.5 x 8.3 มม.
เห็นได้ว่าน้ำหนักค่อนข้างเบา ไม่แตกต่างกันมากนัก ขนาดมิติของอุปกรณ์ใกล้เคียงกัน สามารถจับถือใช้งานได้คล่องตัว สะดวก โดยเฉพาะการใช้อ่านนิยาย อ่านการ์ตูน ล้วนตรงเป้าเข้าประเด็น
เปิดอุปกรณ์ใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่ต้องรำคาญกับแบตเตอรี่เสริม
อัตราบริโภคพลังงานของทั้งสองอุปกรณ์ เมื่อเปรียบมวยกันแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ iPad Mini 6 จะหิวกระหายพลังงานมากกว่า แม้จะบรรจุแบตเตอรี่ขนาด 5,078 mAh พอ ๆ กันกับ BOOX TAB MINI C ที่ 5,000 mAh เท่าที่เคยอ่านรีวิวพบกว่าการชาร์จหนึ่งคร้ังสามารถใช้งาน iPad Mini 6 ได้ประมาณ 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง แต่ BOOX TAB MINI C นั้นชาร์จหนึ่งครั้งใช้กันไปยาว ๆ ร่วมสัปดาห์
สรุปว่า iPad Mini 6 อาจจะติดขัดประเด็นการเปิดใช้งานนิดหน่อย หากอ่านกันเยอะ ใช้งานด้านอื่น ๆ ไปด้วย แต่ก็สามารถครอบคลุมการใช้งานในแต่วันได้อย่างสบาย เพราะเวลาไม่ได้ใช้งานสามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นระยะ ไม่ต้องลงทุนกับไปแบตเตอรี่เสริมเช่นกัน
ใช้ทำงานซึ่งสามารถอ้างอิงกับงานจริงได้บ้าง
อย่างที่เล่าไว้ข้างต้น ว่างานที่ทำนั้นอ้างอิงไปกับแอปฯ ซึ่งส่วนใหญ่มีพร้อมใช้งานอยู่แล้วกับทั้ง iOS และ Android ข้อนี้จึงคลายความกังวลไปได้เยอะ เพราะคงไม่นำอุปกรณ์ระดับนี้ไปใช้ทำงานระดับโหดเหมือนกับโน้ตบุ๊กอย่างแน่นอน วางแผนจัดการให้ดี อุปกรณ์น้อย ๆ สำหรับเน้นการอ่านเหล่านี้ ล้วนมีดีกรีสามารถทำงานได้อย่างไม่ติดขัด
ราคา (สำคัญยิ่ง) อ้างอิงได้กับงบที่มี (จำกัด)
มาถึงประเด็นอันเป็นเงื่อนไขสำคัญ เพราะดันมีงบน้อยเบี้ยใช้สอยค่อนข้างจำกัด ดูสิว่าราคาแต่ละรุ่นนั้นเป็นอย่างไร พิจารณากันที่รุ่นเริ่มต้นยังไม่สนเรื่องเคสสำหรับปกป้องตัวเครื่อง
- iPad Mini 6 (2021) ราคา 19,900 บาท (ไม่มีปากกา)
*อ้างอิงจากราคาจากเว็บไซต์ apple.com - BOOX TAB MINI C น้ำหนัก 16,990 บาท (มีปากกา)
*อ้างอิงจากราคาจากเว็บไซต์ ereader.hytexts.com
แน่นอนว่า iPad Mini 6 มีค่าตัวสูงกว่าอีกทั้งยังต้องซื้อ "ปากกา" เพิ่มเติม หากต้องการใช้งานที่เกี่ยวกับการจดและการวาด ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้มีให้เลือกด้วยกันสองรุ่น คือ Apple Pencil รุ่นที่ 1 (3,190 บาท) และรุ่นที่ 2 (4,990 บาท) บั่นทอนกระเป๋าสตางค์เอาการอยู่เหมือนกัน แต่ BOOX TAB MINI C นั้นมีปากกามาให้ แถมยังเป็นระบบปากกาที่ไม่ต้องชาร์จไฟฟ้าอีกด้วยสิ
อย่างไรก็ตาม ราคาข้างต้นนี้เป็นราคากำหนดจากผู้จำหน่าย หากแต่เรารู้จักเลือกช่วงเวลาหรือช่องทางการซื้อ อาจจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ ทำให้ได้ราคาที่ต้องจ่ายลดลงไปอีกเช่นกัน
สรุปการตัดสินใจ ได้จ่ายค่าเสียหายไปกับอะไรกันนะ?
ว่ากันแบบตรงไปตรงมา อยากจะคว้ามาอยู่ในครอบครองทั้งสองรุ่นนี้นั่นแหละ เพราะมีความสามารถและคุณสมบัติแบบเฉพาะตัวแตกต่างกัน ซึ่งทั้งสองสามารถตอบสนองการใช้งานทางด้านการอ่าน ebook อย่างที่ตั้งใจไว้ข้างต้นได้เป็นอย่างดี อาการรักพี่เสียดายน้องจึงพองแน่นอยู่เต็มอก แต่ก่อนที่สมองจะรกไปด้วยความคิดเพราะมั่วแต่พิจารณามากมาย จึงใช้เหตุและผล ณ ปัจจุบันมาเป็นตัวกำหนด นั่นคือ
❝ขณะนี้ยังมีอุปกรณ์สาย Apple ใช้งานเชื่อมโยงกันอยู่หลายชิ้น❞
มือถือ iPhone ที่มีอยู่แม้จะเก่าเก๋ากึ๊กจน Apple ประกาศตัดหางปล่อยวัด ไม่จัด OS ให้อัพเกรดอีกแล้ว แต่น้องเขาก็ยังใช้ได้ดี เปิดแอปฯ ธนาคารสแกนโอนตังค์ค่าข้าวแกงร้านแม่ค้ายังพอได้
ประกอบกับจับได้โปรฯ ดีเป็นพิเศษ (ในช่วงกำลังตัดสินใจ) ทำให้ได้ค่าตัว Pad Mini 6 ถูกกว่าราคาปกติ แถมยังเกือบเทียบเท่า BOOX TAB MINI C และมีผ่อน 0% อีกต่างหาก (อุ้ย!) ทำให้ประเด็นพิจารณาเอนเอียงไปในถนนสาย Apple ที่เดินตาม (ใช้งาน) มาตลอด ตัวเลือกจึงตกมาอยู่ที่ iPad Mini 6 เข้าเส้นชัยแซง BOOX TAB MINI C ไปเพียง 0.01 วินาที
นั่นเพราะวางแผนไว้แล้วว่า .. หลังจากตกเป็นของ iPad Mini 6 เรียบร้อยแล้ว ก็ตั้งใจเต็มร้อยว่า จะหยอดกระปุกอย่างไว อดออมค่าชาและกาแฟงดเหลียวแลค่าเฟ่สวย ๆ สักระยะ เพื่อช่วยให้ยอดสะสมถึงเป้า แล้วไปเฝ้าหน้าจอรอกดซื้อ BOOX TAB MINI C ช่วงโปรโมชั่นดี ๆ มาไว้อ่าน ebook อีกเครื่องนั่นเอง 😅
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแต่เป็นเรื่องราวการตัดสินใจส่วนบุคคล อาจจะมีเหตุและปัจจัยแตกต่างกันไปกับคนอื่น ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องราวที่เล่าสู่กัน ข้อมูลบางส่วนอาจจะใช้เพื่อพิจารณาความปรารถนากันด้วยตนเอง ใครใช้รุ่นใดรุ่นหนึ่งเพื่อพึงพาสรรหา ebook สนุก ๆ มาอ่าน เชิญรับความสำราญบันเทิงจากหนังสือที่รักได้ตามอัธยาศัย คิดเห็นหรือได้รับประสบการณ์เช่นไร แวะเวียนมาบอกเล่าแลกเปลี่ยนกันได้เช่นกัน